ZMINE BLOG

English English   ไทย ไทย

ประสิทธิภาพการขุดคริปโต

Share this article

             ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยถึงเรื่องการทำ Cryptocurrency Mining ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า สถานการณ์ของตลาดเหรียญนั้นกำลังอยู่ในช่วงขาลง และมีผลกระทบกับการขุดเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องด้วยการขุดเหรียญที่ได้จำนวนน้อยลงและราคาตก รวมไปถึงค่า Difficulty ที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันปัญหาที่มีผลกระทบ ไม่แพ้กันก็คือค่าไฟฟ้า จึงเป็นที่มาของการขุดที่ ‘ไม่คุ้มค่าไฟ’ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Home Mining ของแต่ละบ้านที่ขุดอยู่เริ่มทยอยถอดปลั๊กกันเป็นว่าเล่นเพราะขุดไปก็ไม่คุ้ม นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริษัทที่ให้บริการทางด้านการขุดเหรียญในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ/เช่ากำลังขุด หรือฝากขุด ที่รู้จักกันดีในนามของ ‘เหมืองขุดบิทคอยน์’ ทั้งขนาดกลางและเจ้าใหญ่ๆเองก็ประสบปัญหาในรูปแบบเดียวกัน ด้วยปัจจัยนี้จึงส่งผลกระทบให้เหมืองขุดหลายๆเหมืองไม่สามารถที่จะจ่ายปันผลหรือจ่ายบิทคอยน์ให้ลูกค้าได้ในบางช่วงเวลา และในบางบริษัทได้ทำการยกเลิกสัญญาการขุดเหรียญไปเลย

เคสตัวอย่างจากเว็บไซต์ระดับโลก

source : https://www.genesis-mining.com/pricing

ถ้าจะพูดถึงเหมืองขนาดใหญ่ที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันดีอย่าง Hashflare และ Genesis Mining  ซึ่งเป็นการขุดแบบ Cloud Mining โดยที่ลูกค้านั้นสามารถซื้อแรงขุดและเลือก Algorithm ที่ต้องการได้ตามแพ็คเกจที่มีไว้ให้บริการอย่าเช่นตัวอย่างที่แนบมาด้านบน

ลูกค้าจะได้รับผลตอบแทนโดยจะถูกจ่ายเป็นสกุลของบิทคอยน์ แต่อย่างที่เราได้เห็นกันมาเรื่อยๆว่าระยะเวลาคืนทุนจากสติผู้ใช้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร เนื่องจากตัวสัญญามักจะถูกระงับก่อนด้วยเหตุผลเรื่องค่าไฟเสมอ และสถานะการจ่ายเงินที่อัพเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมาของ Genesis Mining นั้น ได้มีการประกาศเริ่มเสนอขายแพคเกจการจ่าย maintenace fees ล่วงหน้า ซึ่งจะมีผลให้ลูกค้าได้รับเงินเต็มๆโดยที่ไม่มีการหัก maintenance fees ในแต่ละวัน แต่ทว่า นี่คือสัญญาณของความไม่มั่นคง

 

Source : https://blog.genesis-mining.com/alternative-solutions-for-open-ended-bitcoin-contracts

ซึ่งตัวระบบของ Hashflare เองก็มีคอนเซปที่คล้ายคลึงกันกับ Genesis Mining โดยอ้างอิงจากประกาศจากทาง Hashflare ว่า ในช่วงตลาดขาลง รายได้จากการขายสัญญาการขุดต่อเดือนของผู้ใช้งานต่ำกว่าค่าธรรมเนียมการให้บริการ เมื่อหักลบค่าบริการแล้วการจ่ายเงินให้กับลูกค้าจึงอยู่ในสถานะ ‘ไม่มีรายได้’ เป็นเวลาร่วมเดือน จนเป็นเหตุให้สถานะปัจจุบันของ Hashflare ได้ทำการระงับการให้บริการการขุดเครื่องขุด SHA-256 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามประกาศของ Hashflare ในเฟสบุ๊คแฟนเพจเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม ที่ผ่านมา

Source : https://www.facebook.com/HashFlareGlobal/posts/1743402749046796

อีกหนึ่งตัวอย่างของระบบ Cloud Mining อีกตัวนึงก็คือ Eobot

ในตัวของระบบนั้น ลูกค้าจะซื้อกำลังขุดและสามารถเลือกขุดเหรียญอะไรก็ได้ในเว็บของ Eobot เอง และจะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญนั้นๆ 

โดยที่ลูกค้าสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นบิทคอยน์เองได้ในภายหลัง และการแลกเปลี่ยนสกุลเงินก็จะเป็นแบบ Real time ซึ่งจะไม่คุ้มค่าถ้าหากอยู่ในช่วงขาลง สถานะโดยรวมในการจ่ายเงินให้กับลูกค้าในปัจจุบันก็จะเป็นในรูปแบบการจ่ายบ้าง หยุดบ้างจากคำบอกเล่าของผู้ใช้งานจริง โดยสังเกตุจากสถานะของจำนวนเหรียญที่คงที่ไม่เพิ่มขึ้น

 

source : https://www.eobot.com

 

การทำงานของ ZMINE


source : https://zmine.com

เหมืองขุดของ ZMINE จะใช้การ์ดจอ เป็นเครื่องมือในการขุด เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าการ์ดจอนั้นมีความยืดหยุ่นมากกว่า ASICs และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เข้ากับระบบที่ ZMINE ออกแบบมาได้ เพื่อที่จะเอื้ออำนวยให้การเพิ่มประสิทธิภาพ(Optimization) ของการ์ดจอแต่ละตัวนั้นได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ในการขุด นอกเหนือจากนั้น ZMINE จะเน้นไปที่การขุดเหรียญสกุลต่างๆที่ถูกคาดการณ์ผ่านระบบที่มีการติดตั้ง Fundmental requirements ของเหรียญแต่ละเหรียญที่แมทช์กับค่าที่ตั้งไว้ เพื่อให้ได้เหรียญที่มีผลกำไรมากที่สุดเมื่อมาแลกเป็น Bitcoin ก่อนจ่ายผลตอบแทนให้กับลูกค้า ZMINE จะมีทีมช่างเทคนิคที่คอยดูและตรวจสอบอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าหากมีปัญหาเกิดขึ้นหรือมีการหยุดทำงานของการ์ดจอ ระบบจะส่งผลระบุตำแหน่งมาที่จอแสดงผล ทำให้ช่างเทคนิคสามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้ถูกตำแหน่งทันที แต่ถ้าหากอุปกรณ์มีการชำรุด ทางทีมงานจะนำอุปกรณ์สำรองมาเปลี่ยนเพื่อรันแทนตัวที่เสียในระหว่างรอการซ่อมหรือเคลม

เพื่อลดการเสียผลประโยชน์ของลูกค้า นอกจากนี้ ZMINE ยังมีระบบภายใน (Internal System) ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า โดยตั้งแต่ระบบขุด, Mining Pool, Mining Network และรวมไปถึงการซัพพลายอุปกรณ์เพิ่มเติมต่างๆเพื่อทำให้ระบบการขุดสมบูรณ์และพร้อมทำงาน นอกเหนือจากเทคโนโยีต่างๆที่ได้กล่าวมาคร่าวๆในเบื้องต้นนี้ ZMINE ยังคงคอยศึกษาและพัฒนาระบบต่างๆอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้การขุดยัง ‘คุ้มทุน’ แม้แต่ในระยะเวลาแบบนี้ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ ZMINE ยังสามารถขุดเหรียญและจ่ายผลตอบแทนให้กับลูกค้าตามนโยบายของบริษัทได้ทุกๆเดือน ถึงแม้จะเป็นเปอร์เซ็นที่น้อยลงก็ตาม ในขณะเดียวกันที่เหมืองขุดหลายๆเจ้าจะค่อยๆทยอยปิดตัวหรือยกเลิกการจ่ายไป

จากที่ก่อนหน้านี้ การทำเหมืองขุดเหรียญดิจิตัลนั้นเป็นเหมือนเรื่องง่ายๆที่ใครๆก็สามารถทำได้ แต่เมื่อมาถึงสถานการณ์แบบนี้ บอกได้เลยว่าต้องมีระบบการจัดการที่แข็งแรงจริงๆที่จะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปโดยได้ไม่ต้องถอดปลั๊ก

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาเทคนิคของเราเพิ่มเติมได้จาก https://zmine.com