ZMINE Business Update
ภาพรวมตลาด Cryptocurrency ปี 2018
อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าในปี 2018 ถือได้ว่าเป็นปีที่ซบเซาของวงการ Cryptocurrency ตลาดเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง
Ref: https://coinmarketcap.com/charts/
ตัวเลขที่ชี้ให้เห็นถึงสภาวะตลาดได้ดีคือ มูลค่าตลาดรวม หรือ Token Market Capitalization ซึ่งตกจาก 826 Billion dollar ในช่วงต้นปี ลงไปเหลือเพียง 130 Billion dollar ในช่วงปลายปี คิดเป็นผลตอบแทนโดยประมาณ -84% หรืออาจกล่าวง่ายๆได้ว่าหากคุณถือ Cryptocurrency มูลค่า 100 dollar ตอนต้นปี มูลค่าจะเหลือเพียง 16 dollar เมื่อสิ้นสุดปีนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นคือการตกลงของตลาดยังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นคือตอนช่วงเดือน มกราคม และ กุมภาพันธ์
สำหรับธุรกิจการขุดนั้นโดยภาพรวมก็ตกต่ำลงตามสภาพรวมตลาดความสามารถในการทำกำไรของการขุดนั้นมีหลากหลายตัวเลขเนื่องจากมีเหรียญให้ขุดเป็นจำนวนมากและมีวิธีการคำนวณผลตอบแทนที่ต่างกันออกไปอย่างไรก็ตามตัวเลขที่สามารถนำมาเป็นดัชนีชี้วัด (indicator) ได้ดีตัวหนึ่งคือความสามารถในการทำกำไรของการขุด ETH ซึ่งตกลงจาก 0.2330 USD/Day for 1MH/s ตอนต้นปีเหลือเพียง 0.0171 USD/Day for 1MH/s
Ref: https://bitinfocharts.com/comparison/ethereum-mining_profitability.html
ถึงแม้ตัวเลข Mining Profitability นี้จะยังเหมือนมีกำไร แต่ในความเป็นจริงแล้วกำไรจากตัวเลขนี้เป็นเพียงกำไรขั้นต้นหรือ Gross Margin Profit เท่านั้น ในการขุดจริงเหมืองต้องรับต้นทุนจากค่า Fixed-cost ต่างๆ เช่น ค่า Network, ค่าแรงงาน, ค่าสถานที่ ดังนั้นเมื่อหักค่าใช้จ่ายคงที่ต่างๆแล้ว โอกาสที่จะกำไรสุทธิหรือ Net Profit จะติดลบจึงสูงมาก
ผลกระทบจากตลาดหมี 2018
เมื่อเป็นตลาดขาลงตลอดปี 2018 ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อหลายกลุ่มธุรกิจดังต่อไปนี้
Investors have lost
นักลงทุนในตลาด Cryptocurrency ขาดทุน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนจากการเทรด ซึ่งแทบทุกเหรียญมูลค่าตกลงอย่างมาก, หรือนักลงทุนจากการขุด ซึ่งขุดแทบไม่ได้กำไร อีกทั้งมูลค่าของเครื่องขุดก็ตกลงตามกลไกตลาด
Scam unveiled
ธุรกิจหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ที่เป็นการหลอกลวง อาทิ ธุรกิจประเภทนำเงินสมาชิกใหม่มาให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกเดิมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ (Ponzi scheme) หรือ ธุรกิจที่ต้องการฉ้อโกงเงินลงทุนจากนักลงทุนโดยการขายฝัน ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจจริง (Fauld and Scam) เมื่อสภาวะตลาดซบเซาทำให้ไม่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา สุดท้ายธุรกิจกลุ่มนี้ก็จะเริ่มสะท้อนให้เห็นข้อเท็จจริง เช่น ไม่สามารถให้ผลตอบแทนนักลงทุนแบบรับประกันผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้างได้ หรือไม่มีอัพเดทผลงานตาม Roadmap ที่ได้ชี้แจงไว้ตาม Whitepaper
Misspent business discontinued
การดำเนินธุรกิจที่ดี จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างกำไรจากการดำเนินงาน หรือ Operation Profit แต่จังหวะขาขึ้นของตลาด ธุรกิจหลายตัวมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูง จึงนำเงินแต่ละส่วนไปใช้อย่างผิดๆ หรือใช้เงินแบบฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น เช่น Exchange อาจนำเงินฝากลูกค้ามาใช้เป็นค่าใช้จ่ายบริษัท หรือ ICO หลายๆตัวมีการจ่ายเงินจำนวนมากกับการดำเนินงานอย่างไม่สมเหตุสมผล เมื่อตลาดเป็นขาลง สภาพคล่องทางการเงินได้หายไป บริษัทเหล่านี้จึงมักประสบปัญหาทางการเงินและต้องเลิกกิจการไป
Real business scale down
ธุรกิจกลุ่มที่มีการดำเนินงานจริง ในกลุ่มที่ยังสามารถทำกำไรได้ แต่กำไรลดน้อยลง ก็จะเริ่มมีความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ส่วนในกลุ่มที่ไม่สามารถทำกำไรได้ หรือทำกำไรได้ไม่มาก เช่น กลุ่มธุรกิจเหมืองขุด ก็มีความจำเป็นที่ต้องลดขนาดธุรกิจลง, ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
How ZMINE survive in bear market
ในปี 2018 ธุรกิจการทำเหมืองขุดมีความสามารถในการทำกำไรแค่ในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่เดือนเท่านั้นจากนั้นก็ตกต่ำลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องทำให้เหมืองขุดหลายแห่งทั่วโลกไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้แม้จะเป็นเหมืองขุดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกหรือเหมืองขุดที่อยู่ในประเทศที่ค่าไฟฟ้าถูกก็ตาม
ยกตัวอย่างเช่น
- 600K Bitcoin Miners Shut Down in Last 2 Weeks
- HASHFLARE SHUTS DOWN BITCOIN MINING SERVICES, USERS STRUGGLE TO WITHDRAW FUNDS
- Layoffs Underway Amid ‘Adjustments,’ Bitcoin Miner Bitmain Confirms
- Giga Watt, which once had big plans for bitcoin mining facilities at airport, files for Chapter 11 bankruptcy
ในส่วนของทางทีมงาน ZMINE นั้น เราได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ธุรกิจสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาที่ยากลำบากดังกล่าวให้ได้ ถึงแม้ว่าเหมืองขุดใหญ่ๆทั่วโลกจะหยุดดำเนินการไปแล้ว แต่ทาง ZMINE ยังสามารถดำเนินการขุดต่อไปได้ ถึงแม้ตัวเลขผลการขุดจะลดต่ำลงอย่างมากตามสภาวะตลาด ประกอบด้วย
Efficiency& Maintenance
เมื่อค่าไฟฟ้าเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเทียบกับรายได้จากการขุด ทำให้ประสิทธิภาพกลายมาเป็นเรื่องสำคัญ มากขึ้น ทีมงานพยายามที่จะทำให้เครื่องขุดทุกเครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการ Tuning การปรับแต่ Configuration ต่างๆ ให้ Hash rate ต่อการใช้ไฟฟ้ามีค่า Efficiency สูงสุด
ในส่วนของเครื่องขุดที่สภาพไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็จะถูกนำออกมาซ่อมแซม หรือส่งเคลมประกันต่อไป
Off-peak, On-peak
สำหรับค่าไฟฟ้าแบบโรงงานนั้นจะเป็นเรต On-peak ในช่วงกลางวันและเป็นเรต Off-peak ในช่วงกลางคืนเรตค่าไฟฟ้า Off-peak นั้นจะถูกกว่าแบบ On-peak ดังนั้นเครื่องขุดหลายรุ่นที่ไม่สามารถทำกำไรได้ในช่วง On-peak ก็ยังที่จะสามารถทำกำไรได้ในช่วง Off-peak ได้หากมีการเลือกเปิดปิดเครื่องขุดแต่ละรุ่นอย่างถูกต้องเรื่องดังกล่าวนี้อาจฟังดูเป็นเรื่องง่ายแต่ในทางปฎิบัติแล้วการเปิดปิดเครื่องขุดจำนวนมากพร้อมๆกันในเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อนจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบภายในที่สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและมีความยืดหยุ่นสูงนอกจากนี้เครื่องขุดอาจมีการชำรุดจากการเปิดปิดซึ่งถึงแม้จะมีไม่มาก (ประมาณ 2%-5%) แต่สำหรับเหมืองขุดขนาดใหญ่ก็ถือว่าเป็นจำนวนเครื่องที่ต้องซ่อมแซมจำนวนมากในแต่ละวันทีมงาน ZMINE มีการพัฒนาระบบและกระบวนการทำงานในขั้นตอนดังกล่าวอย่างต่อเนื่องให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ
Keep update
ถึงแม้จะเป็นตลาดขาลงแต่ตลาด Cryptocurrency ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆอย่างรวดเร็ว หลายๆการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการขุดอย่างมาก ทีมงาน ZMINE ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และอัพเดทข่าวสารอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญๆในช่วงปี 2018 ที่ส่งผลกระทบต่อการขุด อาทิ
- Hard Fork and the development of the new Algorithm for mining
- The token that has developed new feature such as RVN assets
- The emergence of new coins with high potential such as Grin
Alternative Usage
เนื่องจากเหมืองขุด ZMINE ใช้การ์ดจอเป็นเครื่องมือในการขุด จึงสามารถนำการ์ดจอเหล่านี้มาประยุกต์ใช้งานเพื่อสร้างรายได้จากทางอื่นๆนอกเหนือจากการขุด เช่น การร่วมมือกับ DeepBrain Chain ในการเป็น Hardware Provider เพื่อการนำมาใช้ประมวลผล AI
ZMINE in 2019
Follow the Roadmap
ทีมงานให้ความสำคัญกับทุกคำพูดที่ได้ให้ไว้ใน Whitepaper ตลอดปี 2018 ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินงานต่างๆตาม Roadmap ที่ได้วางไว้จนเกือบครบถ้วนในปี 2019 นี้ทีมงานจะมีการประกาศเรื่อง Marketplace ตาม Roadmap สุดท้ายให้ทราบกันต่อไปถึงแม้จะสิ้นสุดจาก Roadmap ที่ได้ประกาศไว้ตาม Whitepaper แต่ทีมงาน ZMINE ก็จะไม่หยุดพัฒนาและจะมองหาโอกาสที่จะพัฒนาเหมืองขุดและสิ่งต่างๆที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือ ZMINE Token ทุกคน
Connect to community
ถึงแม้สภาวะตลาดจะยังไม่สดใส แต่ Community ในประเทศไทยก็ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่อง ZMINE ยินดีที่ได้เป็นส่วนนึงใน Community และพัฒนาให้วงการ Cryptocurrency ในประเทศไทยให้ก้าวหน้าต่อไป
Stay Tuned!!
จากอดีตที่ผ่านมาตลาด Cryptocurrency มีช่วงเวลาขึ้นลงสลับกันไปมาอยู่เรื่อยๆตลาดขาลงรอบนี้ถือได้ว่าเป็นขาลงที่ยาวนานกว่าปกติทีมงานยังคงติดตามทุกเรื่องราวในอุตสาหกรรมการขุดอย่างใกล้ชิดและพัฒนาเหมืองขุดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อยู่รอดต่อไป….จนกว่าตลาดขาขึ้นจะกลับมาอีกครั้ง